5 ล้านคน ในเนเธอร์แลนด์ ได้ลงทะเบียนกับสโมสรกีฬาที่มีกว่า35, 000แห่งในเนเธอร์แลนด์ ผู้คน 2 ใน 3 ที่มีอายุมากกว่า 15 ปี จะเล่นกีฬาอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์. ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมที่สุดในเนเธอร์แลนด์ และตามด้วยฮอคกี้และวอลเลย์บอลตามลำดับ กอล์ฟ, ยิมนาสติกและเทนนิส เป็นกีฬาประเภทเดียวที่นิยมกันในเนเธอร์แลนด์ องค์กรณ์เกี่ยวกับกีฬาได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 สหพันธ์การกีฬาได้ถูกสร้างขึ้นมา. กฏกีฬาได้ถูกประกาศออกมาเป็นทางการ และได้มีสโมสรกีฬาเป็นทางการ. คณะกรรมการโอลิมปิกของดัตซ์ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.
สืบค้นเมื่อ 28 October 2011. ↑ "Gemeentelijke indeling op 1 januari 2019" [Municipalities on 1 January 2019]. CBS Classifications (ภาษาดัตช์). CBS. 1 January 2019. สืบค้นเมื่อ 7 February 2020. ↑ "De waterschappen" (ภาษาดัตช์). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 November 2013. สืบค้นเมื่อ 7 June 2013. ↑ "Totale oppervlakte". ↑ "CBS Statline". opendata. cbs. nl. ↑ "31. 954, Wet openbare lichamen Bonaire, Sint Eustatius en Saba" (ภาษาดัตช์). Eerste kamer der Staten-Generaal. สืบค้นเมื่อ 15 October 2010. De openbare lichamen vallen rechtstreeks onder het Rijk omdat zij geen deel uitmaken van een provincie. "Through the establishment of the BES islands as public bodies, rather than communities, the BES islands' rules may deviate from the rules in the European part of the Netherlands.
เนเธอร์แลนด์ VS สหรัฐอเมริกา : พรีวิว ฟุตบอลโลก 2022 (ช่อง
คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-10. สืบค้นเมื่อ 2014-04-16. {{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์), Index of Economic Freedom. heritage. org ↑ "Where is the happiest place on Earth? | The Search Office Space Blog | Searchofficespace". News. searchofficespace. com. 25 May 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-11.
อิหร่าน vs สหรัฐอเมริกา-【เซเนกัล VS เนเธอร์แลนด์ : พรีวิว ฟุตบอล
7 พันล้านยูโรในปี ค. 2014[31] สินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ พริก มะเขือเทศ แตงกวา ตลอดจนดอกไม้และหน่อของดอกไม้ การท่องเที่ยว[แก้] สถานที่ท่องเที่ยว[แก้] พิพิธภัณฑ์โครงการเดลต้า แสดงหุ่นจำลองของพื้นที่ระบายน้ำ/ระบบกันน้ำท่วม เมืองที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเนเธอร์แลนด์ เช่น อัมสเตอร์ดัม รอตเทอร์ดาม กรุงเฮก เดลฟ์ท Keukenhof สวนดอกทิวลิป IJsselmeer Outdoor Museum/ The Zuiderzee Museum เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่แสดงวิถีชีวิตของชาวดัตช์ในสมัยโบราณ อาหารการกิน บ้านเรือนและสถาปัตยกรรม เมือง Giethorn Water City ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น Venice of Holland เป็นเมืองที่อาศัยกับลำน้ำคูคลองมีเทศกาลพาเรดกลางน้ำในตอนกลางคืนให้ชม วิธีการชมก็คือการนั่งเรือออกไป Archeon Park, อยู่ที่ Alphen aan den Rijn เป็นกึ่งสวนสนุกและพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ มีการจัดบรรยากาศให้มีความโบราณ ไล่มาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคโรมัน ยุคกลาง ฯลฯ การจัดแสดงและสื่อความหมายใช้คนแสดงเป็นหลัก Efteling Park, ที่ Kaastsheuvel เป็นสวนสนุกที่มีบรรยากาศเป็นอุทยานหรือสวนสาธารณะที่เป็นธรรมชาติ เคยได้รับรางวัล Applause award ว่าเป็นสวนสนุกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หากใครเคยไปสวนสนุกแบบอเมริกัน เช่นดิสนีย์แลนด์มาแล้ว Efteling ให้รสชาติอีกแบบหนึ่งไม่แพ้กันเลยทีเดียว เมืองตุ๊กตา เมืองจำลอง Madurodam Miniature land เมืองจำลองขนาดเล็กที่อธิบายเกี่ยวกับสถานที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ได้อย่างครบถ้วน Polder museum หรือพิพิธภัณฑ์การเกิดแผ่นดินใหม่ และโครงการ Delta projects ที่แสดงเทคโนโลยีการกันน้ำท่วมของชาวดัตช์ตั้งแต่อดีต แสดงให้เห็นว่าชาวดัตช์ใช้ความรู้ ความอดทน และความเป็นนักสู้ต่อสู้กับธรรมชาติ และเรียนรู้ที่จะอยู่กับสภาพการณ์นั้นอย่างชาญฉลาดอย่างไร วิศวกรรมและศาสตร์ต่างๆที่เกี่ยวข้องถูกนำมาจัดแสดงในหลากหลายระดับ ให้คนเลือกดูเลือกชมและได้รับความรู้ที่แตกต่างกันไป ตามอัธยาศัย โครงสร้างพื้นฐาน[แก้] คมนาคม และ โทรคมนาคม[แก้] ระบบการสัญจรในประเทศเนเธอร์แลนด์เติบโตขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี ค.
6 ตามมาตราริกเตอร์ ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ารวมราว 6. 5 พันล้านยูโร และประมาณ 35, 000 ครัวเรือนได้รับความเสียหาย[27] ประมาณการกันว่าเนเธอร์แลนด์มีแหล่งก๊าซธรรมชาติคิดเป็นร้อยละ 25 ของปริมาณก๊าซสำรองตามธรรมชาติของยุโรป[28] อุตสาหกรรมพลังงานนั้นจึงสร้างรายได้กว่าร้อยละ 11 ของจีดีพีของประเทศ(ในปี ค. 2014) อย่างไรก็ตาม การใช้ก๊าซธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากปริมาณสำรองเริ่มลดลง ความต้องการใช้ลดลง และเกิดปัญหาแผ่นดินไหวในแถบโกรนิงเงินบ่อยครั้ง นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังผลักดันให้ประเทศสมาชิกลดการใช้ก๊าซธรรมชาติลงและหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น แต่การเปลี่ยนแหล่งพลังงานมาใช้พลังงานหมุนเวียนแทนก๊าซนั้นยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยากอยู่ เพราะมีปัจจัยทางเศรษฐกิจและการผูกขาดพลังงานโดยบริษัทใหญ่ในประเทศมาเกี่ยวข้อง[29] เกษตรกรรมและทรัพยากรธรรมชาติ[แก้] เนเธอร์แลนด์มีความสามารถรองรับเชิงนิเวศของโลก (biocapacity) ต่ำ กล่าวคือ มีการสร้างทรัพยากรชีวภาพขึ้นมาใหม่น้อย แต่ในทางกลับกัน ชาวดัตช์มีการเพาะปลูกที่เป็นระบบและมีระบบเกษตรกรรมที่เน้นการส่งออก ชาวดัตช์ราว 4 เปอร์เซ็นต์ประกอบอาชีพเกษตรกรรมแต่ผลิตสินค้าเกษตรได้ปริมาณสูงเกินความจำเป็นต่อการผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร ส่งผลให้เนเธอร์แลนด์ส่งออกสินค้าเกษตรสูงเป็นอันดับหนึ่งในสหภาพยุโรปและสูงเป็นอันดับสองของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา[30] สร้างรายได้กว่า 80.
1572 มีส่วนในการสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับจักรวรรดิดัตช์ เริ่มมีการเกณฑ์ทหารหลังจากที่พ่ายสงครามนโปเลียน หลังจากนั้น เนเธอร์แลนด์ดำเนินนโยบายเป็นกลาง แต่กลับถูกกองทัพเยอรมนีรุกรานในสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงได้ยกเลิกนโบายเป็นกลางและลงนามในสนธิสัญญาบรัสเซลส์ จึงเป็นประเทศร่วมก่อตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือในปี ค. 1949 หลังจากนั้น ได้มีส่วนร่วมกับการรบในสงครามเย็น (สงครามเกาหลี) วิกฤตการณ์คอซอวอ โซมาเลีย และ อัฟกานิสถาน รวมถึงปฏิบัติการรักษาสันติภาพของ สหประชาชาติ และ สหภาพยุโรป กองทัพเนเธอร์แลนด์นั้นแบ่งออกเป็น 4 เหล่าทัพ ได้แก่ กองทัพบก (Koninklijke Landmacht หรือ KL) กองทัพเรือ (Koninklijke Marine หรือ KM) กองทัพอากาศ (Koninklijke Luchtmacht หรือ KLu) และ กองสารวัตรทหาร (Koninklijke Marechaussee หรือ KMar) กองกำลังกึ่งทหาร[แก้] เศรษฐกิจ[แก้] ท่าเรือรอตเทอร์ดาม ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศพัฒนาแล้ว และมีบทบาทสำคัญเศรษฐกิจของยุโรปมาแล้วช้านานหลายศตวรรษ ชาวดัตช์ดำเนินกิจการเดินเรือ ประมง เกษตรกรรม ค้าขาย และธนาคารมายาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เศรษฐกิจมีเสรีภาพสูง ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันเชิงเศรษฐกิจสูงที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกใน ค.
8 ต่อปี[23] และอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 3. 4 ใน ค. 2019[24] ศูนย์กลางทางการเงินและธุรกิจของเนเธอร์แลนด์อยู่ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม โดยมีตลาดหลักทรัพย์อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam Stock Exchange หรือ AEX) เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ ปัจจุบันถือเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ยุโรป (Euronext) เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศแรกๆที่เริ่มใช้เงินสกุลยูโรพร้อมกับอีก 15 ประเทศ โดยเริ่มใช้ในทางบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค. 1999 และเริ่มใช้เหรียญและธนบัตรยูโรอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม ค.
1581 ส่วนเหนือของเนเธอร์แลนด์ได้ประกาศเอกราชจากสเปน แต่สงครามยังดำเนินต่อไปอีก จนกระทั่งปี พ. 2191 (ค. 1648) จึงได้มีการลงนามในสนธิสัญญามุนสเตอร์ เพื่อสงบศึกระหว่างเนเธอร์แลนด์และสเปน ถือเป็นการรับรองเอกราชของเนเธอร์แลนด์จากสเปนอย่างเป็นทางการด้วย หลังจากได้ประกาศเอกราชจากจักรวรรดิสเปน ชาวดัตช์ได้ร่วมกันฟื้นฟูประเทศจนในที่สุดได้เข้ามาสู่ยุคทอง เช่นเดียวกับ สเปน โปรตุเกส และสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางทะเลในการแสวงหาโอกาสทางการค้าในดินแดนต่าง ๆ ของโลก ตั้งแต่นิวอัมสเตอร์ดัม และหมู่เกาะแคริบเบียนในอเมริกา แอฟริกาใต้ จนถึงหมู่เกาะอินเดียตะวันออก(อินโดนีเซียในปัจจุบัน) โดยบริษัทอินเดียตะวันออกและบริษัทอินเดียตะวันตกของเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้ดูแลการค้าและปกครองอาณานิคม ทำให้เนเธอร์แลนด์เป็นมหาอำนาจทางทะเลและเศรษฐกิจชั้นนำของยุโรปในเวลานั้น และกรุงอัมสเตอร์ดัมก็ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางการเงินของยุโรป จนมีนักเศรษฐศาสตร์หลายคนถือให้เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศระบอบทุนนิยมประเทศแรกของโลก ก่อนจะเจอปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจรุมเร้า เช่น การเก็งกำไรดอกทิวลิป และการโจมตีราคาหุ้น และเข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ โดยเฉพาะในปี พ.
2373 (ค. 1830) ก่อนจะได้รับการรับรองเอกราชอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ. 2382 (ค. 1839) เนเธอร์แลนด์ประกาศเลิกทาสเมื่อ ค. 1863 ก่อนจะเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เนเธอร์แลนด์ประกาศความเป็นกลางในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างปี พ. 2457-2461 และประกาศความเป็นกลางอีกครั้งหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ดี กองทัพเวร์มัคท์ ได้รุกรานและยึดครองเนเธอร์แลนด์ ในช่วงระหว่างปี พ.
2019) โดยมีอัตราความหนาแน่น 521 คนต่อ ตร. กม. นับได้ว่าอยู่อันดับที่ 12 ของโลก มีอัตราการเกิดอยู่ที่ 1. 78 คนต่อผู้หญิง 1 คน[44] ประชากรมีอายุเฉลี่ย 42. 7 ปีซึ่งนับว่าสูงทีเดียว นอกจากนั้นยังเป็นประเทศที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดเป็นอันดับที่ 5[45] และยังเป็นประเทศที่มีอัตราความสูงของผู้อยู่อาศัยสูงที่สุดในโลก โดยผู้ชายมีความสูง 1. 81 เมตร และผู้หญิงสูง 1. 68 เมตรอีกด้วย [46] และคนทางเหนือจะสูงกว่าคนทางใต้ราวๆ 2 เซนติเมตร ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีประชาชนหลายเชื้อชาติเข้ามาอยู่อาศัย[47] ดังนี้ ที่ เชื้อชาติ จำนวน (ร้อยละ) 1. ดัตช์ 80.
สหรัฐอเมริกา VS เวลส์ : พรีวิว ฟุตบอลโลก 2022 - สสวท
ข้อมูลประเทศเนเธอร์แลนด์ - เดอะเบสท์ แนะแนวเรียนต่อประเทศ
สืบค้นเมื่อ 4 February 2010. ↑ "Netherlands Guide – Interesting facts about the Netherlands". Eupedia. 19 April 1994. สืบค้นเมื่อ 29 April 2010. ↑ van Krieken, Peter J. (2005). The Hague: Legal Capital of the World. Cambridge University Press. ISBN 90-6704-185-8., specifically, "In the 1990s, during his term as United Nations Secretary-General, Boutros Boutros-Ghali started calling The Hague the world's legal capital. " ↑ "Netherlands".
"ผลบอลโลกล่าสุด"อังกฤษ เจ๊า สหรัฐอเมริกา, อิหร่าน บดเอาชนะ เวลส์
↑ "The BBC News Styleguide" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-02-27. สืบค้นเมื่อ 31 March 2014. ↑ "Telegraph style book: places and peoples". สืบค้นเมื่อ 31 March 2014. ↑ "The Guardian style guide" (PDF). สืบค้นเมื่อ 31 March 2014. ↑ "Milieurekeningen 2008" (PDF). Centraal Bureau voor de Statistiek. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2010-02-15.
2017[20] และเป็นประเทศแห่งนวัตกรรมอันดับ 2 ของโลกในปี ค. 2018[21] คู่ค้าที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ได้แก่ เยอรมนี เบลเยียม สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส อิตาลี จีน และรัสเซีย[22] เนเธอร์แลนด์ติดอันดับประเทศที่ส่งออกมาที่สุด 10 อันดับแรก โดยสินค้าส่งออกหลักคือ อาหาร เคมีภัณฑ์ โลหะ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า การบริการ และการท่องเที่ยว โดยมีบริษัทสัญชาติดัตช์ขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจข้ามชาติอยู่มากมาย อาทิ Unilever เบียร์ Heineken สายการบิน KLM ธนาคาร ING, ABN AMRO, Rabobank เคมีภัณฑ์ DSM, AKZO ปิโตรเลียม Royal Dutch Shell เครื่องใช้ไฟฟ้า Philips, ASML และระบบนำร่องดาวเทียม TomTom เนเธอร์แลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของยูโรโซนหรือกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร (สีน้ำเงินเข้ม) และกลุ่มตลาดเดียวของสหภาพยุโรป (สีน้ำเงิน) เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 17 ของโลก และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)เฉลี่ยต่อจำนวนประชากรสูงที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก ในช่วง ค. 1997 ถึง 2000 มีอัตราการเติบโตของจีดีพีสูงเฉลี่ยร้อยละ 4 ต่อปี นับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศยุโรปแต่ลดลงเล็กน้อยหลังจากนั้น อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 2.
ศ. 1581• เป็นที่ยอมรับ 30 มกราคม ค. 1648 (จาก สเปน)พื้นที่• รวม41, 526 ตารางกิโลเมตร (16, 033 ตารางไมล์) (132)• แหล่งน้ำ (%)18. 41%ประชากร• 22 กุมภาพันธ์ 2565 ประมาณ17, 692, 900 (66)• สำมะโนประชากร 255917, 045, 900• ความหนาแน่น395 ต่อตารางกิโลเมตร (1, 023. 0 ต่อตารางไมล์) (15)จีดีพี (อำนาจซื้อ)2560 (ประมาณ)• รวม$ 915. 175 พันล้าน• ต่อหัว$ 53, 581จีดีพี (ราคาตลาด)2560 (ประมาณ)• รวม$ 824. 480 พันล้าน• ต่อหัว$ 48, 271จีนี (2019) 26.
ประเทศเนเธอร์แลนด์ - วิกิพีเดียจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ฮอลแลนด์" หรือ "ฮอลันดา" เป็นชื่อเก่าของเนเธอร์แลนด์ สำหรับความหมายอื่นดูที่ ฮอลแลนด์ (แก้ความกำกวม) เนเธอร์แลนด์Nederland (ดัตช์) ธงชาติ ตราแผ่นดิน คำขวัญ: Je Maintiendrai (ฝรั่งเศส)("ข้าจะพิทักษ์")เพลงชาติ: "Wilhelmus van Nassouwe" (ดัตช์)"วิลเฮลมัสแห่งนัสซอ"ที่ตั้งของ เนเธอร์แลนด์ในทวีปยุโรป (เขียวเข้ม)– ในทวีปยุโรป (เขียว & เทาเข้ม)– ในสหภาพยุโรป (เขียว)ที่ตั้งของ เทศบาลของเนเธอร์แลนด์ในทะเลแคริบเบียน (เขียว)เมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดอัมสเตอร์ดัม[a]52°22′N 4°53′E / 52. 367°N 4. 883°Eศูนย์กลางอำนาจเดอะเฮก[a]ภาษาราชการภาษาดัตช์2การปกครองรัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ• พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์• นายกรัฐมนตรี มาร์ก รีตเตอ• มกุฎราชกุมารี เจ้าหญิงคาทารีนา-อะมาเลีย เจ้าหญิงแห่งออเรนจ์เอกราช จาก สงครามแปดสิบปี• ประกาศ 26 กรกฎาคม ค.
2002 โดยอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 ยูโรต่อ 2. 20371 คิลเดอร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินเก่าของชาวดัตช์ ทำเลที่ตั้งของเนเธอร์แลนด์ทำให้ประเทศกลายเป็นศูนย์กลางการค้ามาอย่างช้านาน ทั้งการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสหราชอาณาจักรและเยอรมนี และประเทศในภูมิภาคอื่นของโลก นับตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน นอกจากนี้ ยังมีแม่น้ำสำคัญหลายสายไหลผ่านมาจากหลายประเทศในยุโรปและออกสู่ทะเลที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทำให้หลายเมืองกลายเป็นท่าเรือ โดยเฉพาะท่าเรือรอตเทอร์ดาม (Rotterdam) ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่และมีความสำคัญทางด้านการค้าระหว่างประเทศมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เปิดโอกาสให้ชาวเนเธอร์แลนด์ทำการค้าได้สะดวก และการค้ากับประเทศในแถบเอเชียและอเมริกามีความสำคัญกับเศรษฐกิจของชาวดัตช์มาตั้งแต่สมัยโบราณ นอกจากนี้ การที่เนเธอร์แลนด์ มีทรัพยากรธรรมชาติไม่มาก ชาวดัตช์ต้องอาศัยการเกษตรกรรม การประมง เลี้ยงสัตว์ ไม่มีแร่ธาตุสำคัญ (น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติมาค้นพบในระยะหลังๆ) ดังนั้น จึงต้องอาศัยการค้าเป็นหลัก เพื่อความอยู่รอด จนได้รับการขนานนามว่าเป็นชาตินักการค้า (Trading nation) และประสบความสำเร็จในด้านการค้ามาตลอด ข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ความเชี่ยวชาญด้านการค้านั้น ดูได้จากการค้าระหว่างประเทศของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น และได้เปรียบดุลการค้ามาตลอดหลายปีติดต่อกัน ปัจจุบัน เนเธอร์แลนด์ยังคงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้เสมอ และยังเป็นหนึ่งในห้าประเทศที่ไปลงทุนในสหรัฐอเมริกามากที่สุด ก๊าซธรรมชาติ[แก้] แหล่งก๊าซธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติในช่วงต้นทศวรรษที่ 1950 และกลายมาเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้มหาศาลหลายแสนล้านยูโรให้กับประเทศ[25] แต่การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจเนื่องจากอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติก็ไปกระทบทำให้ภาคเศรษฐกิจอื่นๆถดถอยได้เช่นกัน หรือที่รู้จักกันในชื่อ โรคดัตช์[25] แหล่งก๊าซโกรนิงเงิน เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ใกล้เมืองโกรนิงเงิน สร้างรายได้ให้กับประเทศมาตั้งแต่กลางทศวรรษ 1970 รวมเป็นเงินกว่า 159, 000 ล้านยูโร[26] ดำเนินการขุดเจาะโดยบริษัท Gasunie ที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์เป็นเจ้าของ แล้วส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่อให้รัฐบาล บริษัท Shell และ Exxon Mobil ใช้ประโยชน์ต่อไป อย่างไรก็ตาม การขุดเจาะก๊าซส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่ผิวโลกมากขึ้น และบางครั้งทำให้เกิดแผ่นดินไหวสูงถึงระดับ 3.
กม. ซาบา เดอะบอตทัม 13 km2 (5. 0 sq mi) 1, 915 148 คนต่อ ตร. กม. ซินต์เอิสตาซียึส โอรันเยอสตัด 21 km2 (8. 1 sq mi) 3, 138 150 คนต่อ ตร. กม. รวม 328 km2 (127 sq mi) 25, 157 77 คนต่อ ตร. กม. ต่างประเทศ[แก้] ในประวัติศาสตร์ เนเธอร์แลนด์เน้นการวางตัวเป็นกลางในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศร่วมก่อตั้งองค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กร ได้แก่ องค์การสหประชาชาติ องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ และสหภาพยุโรป เศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์มีการเปิดเสรีค่อนข้างมากและขึ้นอยู่กับการค้าระหว่างประเทศค่อนข้างมาก นโยบายระหว่างประเทศของเนเธอร์แลนด์ โดยหลักแล้วจะเน้นความร่วมมือแถบทะเลแอตแลนติก แถบยุโรป การพัฒนานโยบายระหว่างประเทศ และกฎหมายระหว่างประเทศ แต่เรื่องที่เป็นประเด็นขัดแย้งเสมอในเวทีระดับนานาชาติคือนโยบายเสรียาเสพติดชนิดไม่รุนแรงของเนเธอร์แลนด์เอง ในช่วงยุคทอง เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศเจ้าอาณานิคม ก่อนประเทศใหญ่อย่างอินโดนีเซียและซูรินามได้ประกาศเอกราชแยกตัวไปในช่วงศตวรรษที่ 20 แต่ทั้งสองประเทศยังคงมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกันเนเธอร์แลนด์อยู่ ทำให้มีส่วนกับนโยบายระหว่างประเทศของเนเธอร์แลนด์ค่อนข้างมาก นอกจากนี้ ยังมีประชากรของทั้งสองประเทศเป็นจำนวนมากที่ยังคงอาศัยอยู่ในเนเธอร์แลนด์จนถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์กับประเทศไทย[แก้] การทูต การค้าและเศรษฐกิจ การศึกษาและวิชาการ กองทัพ[แก้] เนเธอร์แลนด์มีกองกำลังทหารมายาวนานตั้งแต่ปี ค.
2483-2488 (ค. 1940-1945) ปัจจุบันเนเธอร์แลนด์เป็นสมาชิกที่มีบทบาทแข็งขันในสหภาพยุโรปและองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศเจ้าอาณานิคมจนกระทั่งภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยอินโดนีเซียได้ประกาศเอกราชจากการเป็นอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์เมื่อปี พ. 2492 (ค. 1949) และซูรินามประกาศเอกราชเมื่อปี พ. 2497 (ค. 1954) ส่วนเนเธอร์แลนด์แอนทิลลีสและอารูบายังคงเป็นส่วนหนึ่งของเนเธอร์แลนด์ โดยมีอธิปไตยในการบริหารกิจการภายในประเทศ ส่วนด้านการทหารและการต่างประเทศยังอยู่ภายใต้ความควบคุมดูแลโดยรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ การเมืองการปกครอง[แก้] มาร์ก รุตเตอ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์อยู่ในตำแหน่งตั้งแต่ 14 ตุลาคม ค.
เที่ยวบินราคาถูกจากสหรัฐอเมริกาไปเนเธอร์แลนด์ - Skyscanner